รับมือเศรษฐกิจต่าง ๆ ในปี 2020 อย่างไร ถ้าโลกยังเป็นแบบนี้

26 Mar 2020 | 1148

Deepscope Site Admin

โลกตอนนี้เต็มไปด้วยเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดวิกฤติซ้ำแล้วซ้ำเล่า เริ่มตั้งแต่เกิดสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ที่ส่งผลให้เงินบาทแข็งตัว กระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและส่งออกของประเทศไทย Technology Disruption ทำให้โรงงานและบริษัทปิดตัว อัตราการว่างงานสูงขึ้น และล่าสุดโดนซ้ำอีกระลอกจากการวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ปิดตายการท่องเที่ยว ตลาดหุ้นร่วงหนัก จนต้องใช้มาตรการพักการซื้อขายชั่วคราว (เซอร์กิตเบรกเกอร์) บริษัทหยุดกิจการชั่วคราว ทำให้คนไม่มีกำลังซื้อ ยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจที่แย่อยู่แล้วให้ยิ่งแย่เข้าไปอีก

จึงมีคำถามว่าแล้วต่อไปจะอยู่กันอย่างไร วันนี้มาคุยกันดีกว่า ว่าจะช่วยกันรับมือเศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้ได้อย่างไร

ใช้เงินเฉพาะจำเป็น

สิ่งที่ควรทำในช่วงนี้คือการตัดค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยออกไป ค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยคือค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปกับสิ่งของที่เราขาดได้หรือไม่มีก็ได้ เช่น ค่ากินกาแฟ ค่า Netflix ค่าขนมขบเคี้ยว ค่าท่องเที่ยว ค่ากินข้าวนอกบ้าน เป็นต้น ส่วนค่าใช้จ่ายจำเป็นคือค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปกับสิ่งที่กระทบกับชีวิตความเป็นอยู่หรือขาดไม่ได้ เช่นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าผ่อนบ้าน ค่าข้าวสารและค่ากับข้าว เป็นต้น การใช้เงินเฉพาะจำเป็นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เหลือเงินเก็บออมไว้ใช้ในอนาคตที่ยากจะคาดเดาในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้

เก็บออมเงินไว้

การมีเงินเก็บออมทำให้จิตใจมั่นคงและมีทางเลือก สมมติว่าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน บริษัทปิดกิจการเลิกจ้าง อย่างน้อยก็จะมีเงินเก็บก้อนนี้ใช้ได้อีก 3-6 เดือน ทำให้มีเงินใช้ระหว่างหางานใหม่ สามารถใช้เงินเก็บไปลงทุนทำกิจการเพื่อให้มีรายได้เพิ่ม การมีเงินเก็บออมจะทำให้ชีวิตไม่เครียดจนเกินไป

เก็บเงินสดไว้กับตัว

เมื่อเศรษฐกิจเกิดภาวะชะงักงัน จะทำให้สถาบันการเงินมีเงินไหลเวียนและเงินสำรองน้อยลง ดังนั้นการหวังพึ่งเงินจากธนาคารจะมีความเสี่ยงสูงการเก็บเงินสดไว้กับตัวไว้เพื่อใช้จ่ายจะปลอดภัยกว่าการรอไปกดเงินสดจากตู้ ATM

เพิ่มช่องทางหารายได้

การหาอาชีพเสริมหรือหาอาชีพที่ 2 3 4 รองรับไว้ เป็นการลดความเสี่ยงหากรายได้จากงานประจำเป็นศูนย์เพราะโดนพักงาน หรือเลิกจ้าง แม้ว่าอาชีพในช่องทางใหม่ ๆ อาจจะยังมีรายได้ไม่สูงเท่างานหลักปัจจุบัน แต่เชื่อเถอะว่าการมีหลายอาชีพจะทำให้อุ่นใจกว่ามีรายได้ทางเดียวเยอะเลย

ขายสินทรัพย์เก็บเงินไว้นิ่ง ๆ

ในสภาวะที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูงจนไม่สามารถคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตได้ การปล่อยขายหุ้น กองทุนรวม หรือสินทรัพย์ที่ไม่จำเป็นออกไปบ้าง แล้วเก็บเงินไว้นิ่ง ๆ โดยที่ยังไม่ต้องมองหาวิธีการลงทุนใด ๆ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะสภาพวิกฤติแบบนี้ไม่มีใครสามารถฟันธงได้เลยว่า ตลาดหุ้นจะฟื้นตัวได้เมื่อไหร่และปรับตัวขึ้นวันไหน การรอให้สัญญาณตลาดหุ้นฟื้นตัวแล้วค่อยลงทุนน่าจะเป็นหนทางที่ดีกว่า

ลดภาระหนี้สิน

เพราะภาระหนี้สินเป็นค่าใช้จ่ายในสัดส่วนที่สูงกว่าค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในครัวเรือน หากสามารถปรับลดภาระหนี้สินได้ก็ควรจะทำ เพื่อให้เกิดสภาพคล่องด้านการเงินมากขึ้นและเหลือเงินเก็บมากขึ้น ทั้งนี้ทำได้โดยการขอพักหนี้ชั่วคราว ขอปรับโครงสร้างหนี้ หรือรีไฟแนนซ์