สรุปสถานการณ์การลงทุน วันที่ 30/09/2019

30 Sep 2019 | 1194

Deepscope Site Admin

Global Economy

[US economy] อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานสูงกว่าคาด อยู่ที่ระดับ 2.4% ปัจจัยหลักคือ Medicare cost ที่สูงขึ้น ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อโดยทั่วไป (Headline inflation) ปรับเพิ่มเพียง 0.1% ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 1.7%

[US politic] สำนักข่าวเอ็นบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ขอให้นายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ตรวจสอบกรณีของนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และบุตรชายของเขาซึ่งมีการทำธุรกิจในยูเครน ในการสนทนาทางโทรศัพท์ในเดือนก.ค. ซึ่งถูกมองว่าเป็นการเปิดช่องให้ทางยูเครนเข้าแทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งของสหรัฐ นำไปสู่การยื่นพิจารณาถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง (นายไบเดน เป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของปธน.ทรัมป์)

[Brexit] การปิดสภา ของนายบอริส ทำไม่ได้ เนื่องจากศาลสูงสุดของอังกฤษตัดสินว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ พิจารณาว่าการ Brexit วันที่ 31 ต.ค. อาจจะดำเนินการได้

[China] ธนาคารกลางจีน ระบุ จะใช้มาตรการทางการเงินในการสนุบสนุนเศรษฐกิจกิจจีน พร้อมทั้งชี้ว่ายังไม่ความสามารถใช้เครื่องมือการเงินค่อนข้างมาก (Poilcy room) ซึ่งทางเราสังเกตุเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินของจีนเป็นระยะต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปี 2019 ที่ผ่านมา ทั้งการอัดฉีดเงินเข้าระบบผ่านธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ การปรับลดดอกเบี้ยในตลาด และการปรับโครงสร้างเครื่องการทางการเงินและสภาบันการเงินให้มีประสิทธิภาพ

[Trade war] 24 ก.ย. จีนประกาศยกเว้นการเก็บภาษีชั่วคราวสำหรับสินค้าถั่วเหลืองนำเข้า จากสหรัฐ สะท้อนทิศทางเชิงบวกในประเด็นสงครามการค้า และยังมีหลักฐานการนำเข้าถั่วเหลือจากสหรัฐในเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา สูงขึ้นประมาณ 6 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่มีมาตรการเก็บภาษี 25%

[India] กระทรวงคลังอินเดียประกาศลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับบริษัทภายในจากเดิม 30% เหลือ 22% และลดเหลือ 15% สำหรับบริษัทใหม่ที่จัดตั้งขึ้นหลังวันที่ 1 ต.ค.โดยมีผลตั้งแต่ปีงบประมาณปัจจุบันซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2016 นี้ ทำให้เมื่อรวมกับภาษีประเภทอื่นๆ (Surcharge และ EducationCess) จะทำให้ต้นทุนทางภาษีที่แท้จริงอยู่ที่ระดับ 25.2% ลดลงจากเดิมที่ 32.45%–33.99%

Thailand Economy

25 ก.ย. กนง.มีมติ 7:0 คงดอกเบี้ย 1.5% ตามคาด และปรับลดคาดการณ์การเติบโตจีดีพีจาก 3.3%เหลือ 2.8% ทั้งนี้ปัจจัยมาจากการส่งออกที่ลดลง คาดทั้งปีติดลบ 1% จากเดิมโต 0% ส่งผลต่ออุปสงค์และกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว

ธนาคารพาณิชย์ คาดการณ์ธนาคารแห่งประเทศไทยมีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง 0.25% ในเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม ในปีนี้

การลงทุนเอกชนลดลง เหลือ 3% จาก 3.8% ขณะที่การบริโภคในประเทศทรงตัวที่ 3.8%

รายได้ท่องเที่ยว 8 เดือนแรกรวม 2 ล้านล้านบาท เติบโต 3.3% จากปีที่แล้ว

ดัชนีความเชื่อมั่นเดือน ส.ค. อยู่ที่ระดับ 92.8 จุด ลดลงจาก 93.5 จุดในเดือน ก.ค. ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 10เดือน

อัตราการใช้กำลังการผลิตอ่อนตัวลงต่อเนื่องทั้ง QoQ และ YoY อยู่ที่ระดับ 66.52% เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 70.26

คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ หรือ ครม.เศรษฐกิจ แถลงผลการประชุมครม.เศรษฐกิจ ว่า ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจรับทราบผลการดำเนินโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (Mega Project) ของกระทรวงคมนาคม จำนวน 44 โครงการ วงเงินรวม 1,947,310 ล้านบาท

กรอบการลงทุน

ดัชนี SET ณ สิ้นวันศุกร์ อยู่ที่ระดับ 1643.76 จุด ปรับตัวสูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1636.20 จุด สร้างกรอบสามเหลี่ยม ทำให้เกิดแนวต้านสำคัญที่ 1650 และแนวรับ 1620 การเกิดกรอบสามเหลี่ยมอาจมีความผันผวนของดัชนีในระยะข้างหน้า

แนวต้านระยะสั้น คือ 1750,1716,1677,1650

แนวรับระยะสั้นคือ 1620, 1600, 1570 (กรอบ Correction)

ในระยะกลาง แนวรับสำคัญมากคือ 1570+-10, และแนวต้านที่ 1770

(Icons made by Freepik from www.flaticon.com)